วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556
ประติมากรรมนูนต่ำ
ได้แก่ งานประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับประติมากรรมประเภทนูนสูง แต่จะแบนหรือบางกว่าประติมากรรมประเภทนี้ ไม่ปรากฏมากนักในอดีต ซึ่งมักจะได้แก่ ประติมากรรมที่เป็นลวดลายประดับตกแต่ง เช่น แกะสลักด้วยไม้ หิน ปูนปั้น เป็นต้น ในปัจจุบันมีทำกันมากเพราะใช้เป็นงานประดับตกแต่งได้ดี ซึ่งอาจจะปั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ตามวัตถุประสงค์ของสถาปัตยกรรมที่นำประติมากรรมนั้นไปประกอบนอกจากนี้ ประติมากรรมประเภทนี้ยังใช้ได้ดีในการปั้นเหรียญชนิดต่าง ๆ รวมถึงการปั้นเครื่องหมาย ตรา เครื่องหมายต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลาย
ประติมากรรม
ประติมากรรม เป็นงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการปั้น แกะสลัก หล่อ และการจัดองค์ประกอบความงามอื่น ลงบนสื่อต่างๆ เช่น ไม้ หิน โลหะ สัมฤทธิ์ ฯลฯ เพื่อให้เกิดรูปทรง 3 มิติ มีความลึกหรือนูนหนา สามารถสื่อถึงสิ่งต่างๆ สภาพสังคม วัฒนธรรม รวมถึงจิตใจของมนุษย์โดยชิ้นงาน ผ่านการสร้างของประติมากร ประติกรรมเป็นแขนงหนึ่งของทัศนศิลป์ ผู้ทำงานประติมากรรม มักเรียกว่า ประติมากร
วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556
จิตรกรรมในประวัติศาสตร์
งานจิตรกรรมฝาผนังแรกที่สุดสร้างเมื่อ 1500 ก่อนคริสต์ศักราชที่พบที่เกาะครีต
ใน ประเทศกรีซ ชิ้นที่สำคัญที่สุดเรียกว่า “The Toreador”
ซึ่งเป็นเรื่องราวของพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่คนกระโดดข้ามหลังวัว
งานชิ้นอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก็มีพบในบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนโดยเฉพาะใน
ประเทศอียิปต์ และประเทศโมร็อกโก งานจิตรกรรมฝาผนังที่พบมากในประเทศอียิปต์
ก็เป็นงานที่พบในสุสานที่ฝังศพและจะใช้วิธีวาดบนปูนแห้ง แต่ที่มาของจิตรกรรมฝาผนัง
เหล่านี้ยังเป็นที่สันนิษฐานกันอยู่นักประวัติศาสตร์บางท่านก็เชื่อว่าจิตรกรจากครีตอาจจะ
ถูกส่งไปวาดตามที่ต่างเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทางการค้าหรืออาจจะเป็นการส่งเสริมความ
สำคัญของศิลปะลักษณะนี้ซึ่งถือว่าเป็นศิลปะสำคัญของสมัยนั้นก็ได้
นอกจากนั้นจิตรกรรมฝาผนังยังเห็นได้จากสถาปัตยกรรมกรีก (Ancient Greece architecture)
แต่ที่ยังเหลืออยู่ทุกวันนี้เกือบหาไม่ได้ ที่มีก็พบทางตอนใต้ของอิตาลีที่เพสตุม (Paestum)
ที่มันยาเกรเซีย (Magna Graecia) ซึ่งเป็นอาณานิคมกรีก จิตรกรรมที่พบเมื่อปี ค.ศ. 1968
ก็อยู่ภายในที่ฝังศพวาดมาตั้งแต่ 470 ปีก่อนคริสต์ศักราชที่เรียกว่า “ที่ฝังศพของนักดำน้ำ”
(Tomb of the Diver) ฉากที่วาดมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากเพราะเป็น
การแสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น อีกภาพหนึ่งแสดงให้เห็นคน
กลุ่มหนึ่งนอนเอนอย่างพบประสังสรรค์กัน อีกภาพหนึ่งเป็นภาพชายหนุ่มกระโดดลงไปในทะเล
จิตรกรรมฝาผนังที่สร้างในสมัยจักรวรรดิโรมันเช่นที่ปอมเปอี
และ Roman wall paintings, such as those at ปอมเปอี และ เฮอร์คิวเลเนียม เป็น จิตรกรรมแบบปูนเปียก
จิตรกรรมปูนชื้น
ที่สามเรียกว่า จิตรกรรมปูนชื้น หรือ “mezzo-fresco”
วิธีนี้จิตรวิธีกรจะวาดรูปบนผนังปูนที่ใกล้จะแห้ง-ตามที่อิกนาซิโอ
พ็อซโซอธิบายไว้เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ว่าเพื่อจะพอให้สีซึมลงไปในเนื้อปูนเพียงเล็กน้อย
พอมาถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 วิธีนี้ก็ใช้แทนที่จิตรกรรมปูนเปียกเป็นส่วนใหญ่
จิตรกรที่ใช้วิธีนี้ก็มีจิโอวานนิ บัตติสตา ติเอโปโล
ระหว่างสามวิธีนี้ งานที่ทำโดยวิธีปูนแห้งล้วนจะทำได้เร็วกว่าวิธีอื่น
ถ้ามีอะไรผิดก็แก้ง่ายและความแตกต่างของสีที่ทาลงไปกับเวลาที่สีแห้งจะน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
จิตรกรรมปูนแห้ง
จิตรกรรมฝาผนังแบบปูนแห้ง (A Secco) จะตรงกันข้ามคือจะวาดบนปูนแห้ง
(“Secco” ในภาษาอิตาลีแปลว่า แห้ง) วิธีนี้จิตรกรจะผสมสีกับสารที่ทำให้ติดผนังเช่นไข่
(ที่เรียกว่า “เทมเพอรา”) กาว หรือ น้ำมัน เพื่อให้สียึดติดกับผนัง
สิ่งที่ควรจะสังเกตคือความแตกต่างระหว่างจิตรกรรมปูนแห้งที่วาดทับบน
จิตรกรรมปูนเปียกซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปตั้งแต่ยุคกลางเป็นต้นมา
และจิตรกรรมปูนแห้งที่วาดบนผนังเปล่า
ตามปกติแล้วจิตรกรรมปูนเปียกจะทนทานกว่าจิตรกรรมปูนแห้งที่มาวาดทับภายหลัง
เพราะจิตรกรรมปูนแห้งจะติดผนังที่ไม่เรียบได้ดีกว่าผนังที่เรียบ บางครั้งจิตรกรจะ
ใช้วิธีหลังนี้เพื่อเติมรายละเอียดหรือเพราะบางสีไม่สามารถทำได้จากวิธีแรกเพราะ
ปฏิกิริยาเคมีของปูนที่มีด่างโดยเฉพาะสีน้ำเงิน เสื้อคลุมที่เป็นสีน้ำเงินของจิตรกรรมปูนเปียก
จะมาเติมด้วยวิธีหลังให้สีเข้มขึ้นเพราะทั้งสีน้ำเงิน azurite และสีน้ำเงิน “ลาพิส ลาซูไล”
จะออกมาไม่สวยเมื่อใช้ปูนเปียก[1]
จากการวิจัยพบว่าจิตรกรสมัยเรอเนซองส์ตอนต้นมักจะใช้วาด
บนปูนแห้งเพื่อจะให้ได้สีที่หลากหลายกว่าปูนเปียก งานที่ทำด้วยวิธีนี้ในสมัยแรกๆ
สูญหายไปเกือบหมด แต่งานที่ทำบนผิวผนังที่ทำให้หยาบเพื่อให้สีติดจะยังคงเหลืออยู่บ้าง
แต่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อจิตรกรรมฝาผนังมากที่สุดก็เห็นจะเป็นความชื้น
จิตรกรรมปูนเปียก
จิตรกรรมฝาผนังแบบปูนเปียก (Buon fresco)
เป็นวิธีที่ใช้สีผสมน้ำแล้ววาดลงบนปูนปลาสเตอร์ หรือ lime mortar
ที่ปาดไว้บางๆบนผนังที่ภาษาอิตาลีเรียกว่า“อินโทนาโค”
เมื่อทาสีลงไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรทาเคลือบให้สีติดเพราะ
ปูนปลาสเตอร์จะมีปฏิกิริยาเคมีกับสีติดปูน
เมื่อทาสีจะซึมลงไปในปูนที่ยังชื้นพอปูนแห้งก็จะมีปฏิกิริยาเคมีกับอากาศทำให้สีติดผนังได้อย่างถาว
ร ผู้ที่ใช้วิธีเขียนจิตรกรรมฝาผนังโดยใช้วิธีนี้คือไอแซ็ค
มาสเตอร์ที่ชั้นบนของมหาวิหารเซนต์ฟรานซิสแห่งอาซิซิที่อาซิซิประเทศอิตาลี
จิตรกรรมฝาผนัง
จิตรกรรมฝาผนัง (ภาษาอังกฤษ: Mural painting)
คือภาพเขียนหลายชนิดที่เขียนบนปูนบนผนังหรือเพดาน
เทคนิคที่นิยมกัน คือ การวาดภาพบนผนังปูนปลาสเตอร์เปียก (fresco)
โดยที่คำว่า “fresco” มาจากภาษาอิตาลี “affresco”
ซึ่งมาจากคำว่า “fresco” หรือ “สด” รากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน
วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556
จิตรกรรม
และการจัดองค์ประกอบความงามอื่น เพื่อให้เกิดภาพ 2 มิติ ไม่มีความลึกหรือนูนหนา
จอห์น แคนาเดย์ (John Canaday) ได้ให้ความหมายของจิตรกรรมไว้ว่า จิตรกรรม คือ
การระบายชั้นของสีลงบนพื้นระนาบรองรับ เป็นการจัดรวมกันของรูปทรง และ
สีที่เกิดขึ้นจากการเตรียมการของศิลปินแต่ละคนในการเขียนภาพนั้น พจนานุกรมศัพท์
อธิบายว่า เป็นการสร้างงานทัศนศิลป์บนพื้นระนาบรองรับ ด้วยการ ลาก ป้าย ขีด ขูด วัสดุ
จิตรกรรมลงบนพื้นระนาบรองรับภาพจิตรกรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่เป็นที่รู้จักอยู่ที่ถ้ำ Chauvet
ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนอ้างว่ามีอายุราว 32,000 ปีเป็นภาพ
ที่สลักและระบายสีด้วยโคลนแดงและสีย้อมดำ แสดงรูปม้า แรด สิงโต ควาย แมมมอธ
หรือมนุษย์ ซึ่งมักจะกำลังล่าสัตว์
ประเภท.
จิตรกรรม (Painting)
ประติมากรรม (Sculpture)
สถาปัตยกรรม (Architecture)
วรรณกรรม (Literature)
คีตกรรม (Music)
ศิลปะ.
ศิลปะ หรือ ศิลป์ ทั่วๆไปแล้วจะหมายถึงการกระทำหรือขั้นตอนของกา
รสร้างชิ้นงานศิลปะโดยมนุษย์ คำแปลในภาษาอังกฤษที่ตรงที่สุดคือ Art
ศิลปะเป็นคำที่มีความหมายกว้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีความหมายเกี่ยวกับ
การสร้างสรรค์, สุนทรียภาพ, หรือการสร้างอารมณ์ต่างๆ
งานศิลปะ จะรวมถึงชิ้นงานหลายๆชนิดโดยผู้สร้างตั้งใจสร้าง
ชิ้นงานเพื่อสื่อสาร,สื่ออารมณ์,หรือใช้สัญลักษณ์เพื่อให้ผู้ชมชิ้นงานตีความ
ผู้สร้างงานศิลปะ มักเรียกรวมๆ ว่า ศิลปิน
ศิลปะอาจรวมไปถึงงานในรูปแบบต่างๆเช่น งานเขียน บทกวี การเต้นรำ
การแสดง ดนตรี งานปฏิมากรรม ภาพวาด-ภาพเขียน การจักสาน หรือ อื่นๆ
อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วศิลปะจะหมายถึงงานทางทัศนศิลปะพวก
ภาพวาด-ภาพเขียน งานประติมากรรม งานแกะสลัก
รวมถึง conceptual art และ installation art
ศิลปะนับว่าเป็นศาสตร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้น
และนับว่าเป็นศาสตร์ของนักปราชญ์ที่เป็นที่ชื่นชม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)